วิธีการชำแหละที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการแปรรูปเนื้อในยุคปัจจุบัน

การเชือดสัตว์ปีกเป็นกระบวนการที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดและมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อให้มั่นใจถึงการจัดการสัตว์อย่างเป็นมนุษยธรรมและการผลิตเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย กระบวนการโดยทั่วไปจะเริ่มต้นด้วยการช็อกไฟฟ้า (stunning) โดยสัตว์ปีกจะถูกทำให้หมดสติโดยใช้วิธีต่าง ๆ เช่น การช็อกด้วยไฟฟ้า หรือระบบช็อกด้วยบรรยากาศควบคุม (CAS) ซึ่งเป็นการใช้ก๊าซผสมเพื่อลดความเครียดและความเจ็บปวดของสัตว์ ขั้นตอนนี้มีความสำคัญทั้งในด้านสวัสดิภาพสัตว์และคุณภาพของเนื้อสัตว์ เนื่องจากช่วยป้องกันการเกร็งของกล้ามเนื้อและอาการฟกช้ำของเนื้อ หลังจากนั้น ปีกจะถูกยึดไว้บนสายพานลำเลียงและผ่านกระบวนการเชือดอัตโนมัติ โดยตัดหลอดเลือดแดง (carotid artery) และหลอดเลือดดำ (jugular vein) เพื่อให้เลือดไหลออกอย่างรวดเร็ว เวลาในการไหลของเลือดจะถูกควบคุมอย่างระมัดระวังเพื่อขจัดเลือดออกให้มากที่สุด ซึ่งส่งผลต่อสีสันและอายุการเก็บของเนื้อ จากนั้น ปีกจะถูกนำไปลวกในน้ำร้อน (ประมาณ 50-60°C) เพื่อทำให้ขนหลุดง่ายขึ้น ตามด้วยเครื่องถอนขนที่ใช้นิ้วยางในการกำจัดขน ขั้นตอนต่อไปคือการควั่นไส้ (evisceration) ซึ่งเป็นการนำอวัยวะภายในออก โดยใช้อุปกรณ์อัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อน จากนั้นซากจะถูกทำความสะอาดและทำให้เย็น ด้วยการจุ่มในน้ำเย็นหรือใช้อากาศเย็นเพื่อลดอุณหภูมิและชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ตลอดกระบวนการนั้น มีการดำเนินมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวด รวมถึงการทำความสะอาดอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ การฝึกอบรมพนักงาน และการทดสอบเชื้อโรค เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร เช่น ข้อกำหนดของ USDA และ EU โรงงานเชือดสัตว์ปีกสมัยใหม่ยังให้ความสำคัญกับการลดของเสีย โดยนำผลพลอยได้ เช่น ขนและอวัยวะ มาใช้เป็นอาหารสัตว์หรือวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอื่น ๆ การผสานรวมระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันนั้นช่วยให้เกิดประสิทธิภาพ ความสม่ำเสมอ และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ทำให้กระบวนการเชือดสัตว์ปีกเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานอาหารระดับโลก